Hot Widget

Header ADS
Type Here to Get Search Results !
Header ADS

ทายาท ตระกูลนิรันดร แจงศึกสายเลือดมรดกหมื่นล้าน

ทายาท ตระกูลนิรันดร 
แจงศึกสายเลือดมรดกหมื่นล้าน


พลตรี สรภฎ นิรันดร เปิดแถลงข่าว
“ปมปัญหา ตระกูลนิรันดร”
“ตระกูล นิรันดร” เป็นตระกูลที่ได้รับพระราชทาน นามสกุล คือ ขุนนิรันดรชัย หรือ พันตรี เสหวก นิรันดร อดีตนักเรียนนายร้อย ผู้บังคับกองร้อยกรมทหารปืนใหญ่ที่ 1 เป็นอดีตผู้เข้าร่วมเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 ต่อมาได้ดำรงตำแหน่ง ราชเลขา ในหลวงรัชกาลที่ 8 จากนั้นได้ลาออกจากราชการ เพื่อมาก่อตั้งธนาคารนครหลวง และได้ดำรงตำแหน่งเป็นประธานธนาคารนครหลวง








 “ตระกูล นิรันดร” มีทายาททั้งหมด 13 คน ปัจจุบันยังมีชีวิตอยู่ 6 คน ประกอบด้วย นายธรรมนูญ นิรันดร,  พลตรี สรภฎ นิรันดร, นายธรรมเรศ นิรันดร, นางสุจิตรา วิริยวัฒน์, นายภูมิพงศ์ พัฒน์พงศ์พานิช และนางเยาวรัตน์ นิรันดร ครอบครัวได้จัดการทรัพย์สินมรดกในลักษณะกงสี โดยมีนายธรรมนูญ นิรันดร เป็นผู้จัดการมรดก
 พลตรี สรภฎ นิรันดร พร้อมด้วย นายธรรมเรศ นิรันดร, นางพักตรพิมล นิรันดร และนางเยาวรัตน์ นิรันดร ร่วมแถลงข่าว “ปมปัญหา ตระกูลนิรันดร” โดยมี พลเอก สายหยุด เกิดผล และผู้สื่อข่าวจำนวนมากร่วมรับฟัง ณ โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพมหานคร




  โดย พลตรี สรภฎ นิรันดร กล่าวว่า “เมื่อปีพ.ศ. 2552 คุณธรรมนูญ นิรันดร ผู้จัดการมรกด ป่วยหนักมีอาการเส้นเลือดในสมองแตก ได้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า หลังออกจากโรงพยาบาลก็มาพักรักษาตัวอยู่ที่บ้าน โดยมีพยาบาลคอยดูแลตลอด เนื่องจากคุณธรรมนูญ นิรันดร ไม่สามารถช่วยตัวเองได้เหมือนเดิม ต่อมาในปีพ.ศ. 2559 คุณธรรมนูญ นิรันดร ได้นำที่ดินของกองมรกด จำนวน 187 ไร่ ตลาดขวัญดอนเมือง ไปขายโดยไม่แบ่งปันให้ทายาท และในปีพ.ศ. 2560 คุณธรรมนูญ นิรันดร ได้นำที่ดินกองมรกด ที่บางลำภู ถนนพระอาทิตย์ แขวงชนะสงคราม ไปขายให้บุตรสาว และบุตรชายของตน เป็นเหตุให้ทายาทของตระกูลนิรันดร ได้ฟ้องร้องขึ้น โดยมีพี่สุจิตรา วิริยวัฒน์ ซึ่งเป็นทายาทได้ขอให้ผม เป็นผู้จัดการมรดกแทนคุณธรรมนูญ สำหรับผมและคุณธรรมเรศ นิรันดร ก็ได้ฟ้อง เพื่อขอแบ่งที่ดินมรดกของตระกูลที่ยังเหลืออยู่จำนวนมาก ตามสิทธิที่ควรได้เท่านั้น ปัจจุบันทายาทตระกูล นิรันดร ทั้ง 5 คน ได้ยื่นฟ้องนายธรรมนูญ นิรันดร และพวกต่อศาลแพ่งและอาญา ในข้อหายักยอกทรัพย์มรดก ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของศาล สุดท้ายนี้ ผมหวังว่าในอนาคตลูกหลานของคุณพ่อคือขุนนิรันดรชัย จะได้มีความรัก และเอื้ออาทรต่อกัน เหมือนดังที่คุณพ่อต้องการ และไม่ให้สิ่งใดมาบังตา ทำให้เกิดความขัดแย้งต้องฟ้องร้องต่อกันดังเช่นในยุคผม”